'ช ทวี'ฟ้อง ขสมก.เรียกค่าเสียหาย 1.55 พันลบ.
กรุงเทพธุรกิจ
6 กันยายน 2562
'ช ทวี' ยื่นฟ้องขสมก. ต่อศาลปกครองกลาง เรียกค่าเสียหาย 1,556 .07 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย 7.5 % หลังบอกเลิกสัญญาตั้งระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) และ Cash-Box บนรถโดยสารประจำทาง จำนวน 2,600 คัน
บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัทฯได้ยื่นฟ้องหน่วยงานรัฐ ณ ศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขดำที่ 1998/2562 ระหว่างบริษัทฯผู้ฟ้องคดี และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ผู้ถูกฟ้องคดี เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายหรือชดใช้ค่าการงาน และค่าเช่าที่ควรได้รับแก่บริษัทฯ เป็นเงินจำนวน 1,556 .07 ล้านบาท (ไม่รวมภาษี) พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับถัดจากวันฟ้องจนถึงวันชำระแล้วเสร็๗ และให้คืนหลักประกันสัญญาพร้อมค่าธรรมเนียมที่จะเกิดจากการคืนหลักประกันล่าช้าดังกล่าวแล้ว
ก่อนหน้านี้ บริษัท ฯได้ทำสัญญาให้เช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ E-Ticket กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งติดตั้งระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) และ Cash-Box บนรถโดยสารประจำทาง จำนวน 2,600 คัน มีกำหนดระยะเวลาการเช่า 5 ปี มูลค่าโครงการรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,665 ล้านบาท ต่อมาบริษัทฯ ได้รับหนังสือจากหน่วยงานรัฐขอยกเลิกการทำสัญญาฯ ดังกล่าว มูลค่าโครงการที่บอกยกเลิกรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,665 ล้านบาท
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/846414
----------
“ช ทวี” ยื่นฟ้อง ขสมก.
เรียก 1.55 พันล้าน ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี
กรณีบอกเลิกสัญญาเช่า E-Ticket
PPTV
6 กันยายน 2562
บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยื่นฟ้อง ขสมก. ต่อศาลปกครอง กรณีบอกเลิกสัญญาเช่าระบบบัตรอิเล็กทรอนิกส์
เมื่อวันที่ (6 ก.ย.62) นายสุรเดช กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งต่อกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เรื่อง แจ้งเรื่องบริษัทฯ ยื่นฟ้องหน่วยงานรัฐ ต่อศาลปกครอง กรณีบอกเลิกสัญญาเช่าระบบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) ระบุว่า ตามที่บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) ได้ทำสัญญาให้เช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ E-Ticket กับองค์การขนส่ง (ขสมก.) ซึ่งได้ติดตั้งระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) และ Cash-Box บนรถโดยสารประจำทาง จำนวน 2,600 คัน มีกำหนดระยะเวลาการเช่า 5 ปี มูลค่าโครงการรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,665,000,000 บาท ต่อมาบริษัทฯ ได้รับหนังสือจากหน่วยงานรัฐขอยกเลิกการทำสัญญาฯ ดังกล่าว มูลค่าโครงการที่บอกยกเลิกรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,665,000,000 บาท
โดยเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2562 บริษัทฯ ได้มอบหมายให้สำนักงานกฎหมายผู้เชี่ยวชาญ ยื่นคำฟ้องหน่วยงานรัฐ ณ ศาลปกครองกลาง ดดีหมายเลขดำที่ 1998/2562 ระหว่างบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ผู้ฟ้องคดี และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ผู้ถูกฟ้องคดี เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายหรือชดใช้ค่าการงาน และค่าเช่าที่ควรได้รับแก่บริษัทฯ เป็นเงินจำนวน 1,556,074,766.36 บาท (หนึ่งพันห้าร้อยห้าสิบหกล้านเจ็ดหมื่นสี่พันเจ็ดร้อยหกสิบหกบาทสามสิบหกสตางค์) (ราคาไม่รวมภาษี) พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องจนถึงวันชำระแล้วเสร็จ และให้คืนหลักประกันสัญญา พร้อมค่าธรรมเนียมที่จะเกิดจากการคืนหลักประกันล่าช้าดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ถ้ามีความคืบหน้าประการใด บริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบต่อไป
https://www.pptvhd36.com/news/ประเด็นร้อน/109977
----------
พิษยกเลิก E-Ticket
'ช.ทวี' ยื่นฟ้อง ขสมก. 1.5 พันล้าน
ฐานเศรษฐกิจ
7 กันยายน 2562
บริษัทช.ทวี ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เรียกค่าเสียหาย 1,556 .07 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย 7.5 % จากขสมก. หลังถูกบอกเลิกสัญญาตั้งระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) และ Cash-Box
บริษัท ช. ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัทฯได้ยื่นฟ้องหน่วยงานรัฐ ณ ศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขดำที่ 1998/2562 ระหว่างบริษัทฯผู้ฟ้องคดี และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ผู้ถูกฟ้องคดี เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายหรือชดใช้ค่าการงาน และค่าเช่าที่ควรได้รับแก่บริษัทฯ เป็นเงินจำนวน 1,556 .07 ล้านบาท (ไม่รวมภาษี) พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับถัดจากวันฟ้องจนถึงวันชำระแล้วเสร็จ และให้คืนหลักประกันสัญญาพร้อมค่าธรรมเนียมที่จะเกิดจากการคืนหลักประกันล่าช้าดังกล่าวแล้ว
ก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ได้ทำสัญญาให้เช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ E-Ticket กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งติดตั้งระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) และ Cash-Box บนรถโดยสารประจำทาง จำนวน 2,600 คัน มีกำหนดระยะเวลาการเช่า 5 ปี มูลค่าโครงการรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,665 ล้านบาท ต่อมาบริษัทฯ ได้รับหนังสือจากหน่วยงานรัฐขอยกเลิกการทำสัญญาฯ ดังกล่าว มูลค่าโครงการที่บอกยกเลิกรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,665 ล้านบาท
https://www.thansettakij.com/content/409146